ประวัติและความสำคัญของกรีฑา
กรีฑามีจุดเริ่มต้นจากชาวกรีกโบราณซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการแข่งขันกีฬา โดยประวัติศาสตร์การกรีฑาเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 776 ปีก่อนคริสตกาล กรีฑามีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมพลเมืองของกรีกให้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้พวกเขาสามารถรับใช้ประเทศชาติได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ชาวกรีกโบราณนับถือเทพเจ้าหลายองค์ โดยเชื่อว่ามีเทพเจ้าสถิตอยู่บนเขาโอลิมปัส ซึ่งเทพเจ้าจะบันดาลความสุขหรือความทุกข์ให้แก่ผู้นับถือ และเป็นผู้ชี้ชะตาของชาวกรีก ด้วยเหตุนี้ ชาวกรีกจึงพยายามประพฤติตนให้เป็นที่โปรดปรานของเทพเจ้า โดยมีการบวงสรวงและทำพิธีกรรมต่าง ๆ
เมื่อเสร็จพิธีทางศาสนาแล้ว การเล่นกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองพระเกียรติของเทพเจ้า การแข่งขันกรีฑามักจัดขึ้นที่ลานเชิงเขาโอลิมปัสในแคว้นอีลิส ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพและสนิทสนมกับเทพเจ้า
กรีฑากับโอลิมปิก
สำหรับกรีฑามีความสัมพันธ์อันยาวนานกับการแข่งขันโอลิมปิก ตั้งแต่สมัยโอลิมปิกโบราณในกรีซ และยังคงเป็นส่วนสำคัญในโอลิมปิกสมัยใหม่ตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1896 นอกจากนี้ กรีฑายังเป็นกีฬาที่มีความหลากหลายที่สุดในโอลิมปิก ทั้งในแง่ของจำนวนรายการแข่งขันและจำนวนนักกีฬา
โปรแกรมการแข่งขันกรีฑาประกอบด้วยประเภทลู่และลาน รวมถึงมาราธอนและการเดินทน ส่วนครอสคันทรีถูกถอดออกจากการแข่งขันโอลิมปิกหลังปี 1924 ขณะเดียวกัน กีฬาชักกะเย่อเคยเป็นส่วนหนึ่งของกรีฑาในโอลิมปิกยุคแรก ๆ (ระหว่างปี 1900-1920)
สหรัฐอเมริกาเป็นชาติที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในกรีฑา โดยได้เหรียญทองรวม 332 เหรียญ เหรียญเงิน 259 เหรียญ และเหรียญทองแดง 204 เหรียญ นอกจากนี้ยังมีนักกรีฑาระดับตำนานมากมายที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เช่น คาร์ล ลูอิส (Carl Lewis) และเจสซี่ โอเว่นส์ (Jesse Owens)
นักกรีฑาชื่อดังที่ควรจับตามองในโอลิมปิก 2024
1. โนอาห์ ไลล์ส (Noah Lyles) สหรัฐอเมริกา
วิ่งระยะสั้นเป็นไฮไลต์สำคัญของกรีฑาเสมอ และโนอาห์ ไลล์ส (Noah Lyles) เป็นหนึ่งในนักกีฬาตัวเต็งที่มีโอกาสคว้าเหรียญ จากการคว้าเหรียญทองแดงในการวิ่ง 200 เมตรชายในโอลิมปิก โตเกียว 2020 ในครั้งนี้ เขาจะลงแข่งขันใน 3 รายการ ได้แก่ วิ่ง 100 เมตรชาย, 200 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4x100 เมตรชาย
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ โนอาห์ ไลล์ส (Noah Lyles) จะโชว์ความสนุกสนานหรือท่าทางพิเศษอะไรออกมาให้ผู้ชมได้เห็นอีกหรือไม่ หลังจากที่เขาเคยโชว์ลีลาต่าง ๆ ในรอบคัดเลือกตัวแทนประเทศมาแล้ว
2. ชาคาร์รี่ ริชาร์ดสัน (Sha'Carri Richardson) สหรัฐอเมริกา
สำหรับชาคาร์รี่ ริชาร์ดสัน เธอมีความมุ่งมั่นมากขึ้นเพื่อไม่ให้พลาดซ้ำรอย และด้วยฝีเท้าที่พัฒนา เธอมีโอกาสคว้าเหรียญในครั้งนี้ โดยจะลงแข่งใน 3 รายการคือ 100 เมตรหญิง, 200 เมตรหญิง และ 4x100 เมตรหญิง
3. เอลิอุด คิปโชเก้ (Eliud Kipchoge) เคนยา
แม้ว่าอายุของเขากำลังจะเข้าสู่หลัก 4 แต่แฟน ๆ วิ่งมาราธอนยังเชื่อมั่นในพลังของเอลิอุด คิปโชเก้ (Eliud Kipchoge) ผู้ที่เคยถือครองสถิติโลกและคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกมาราธอน 2 สมัยติดต่อกันที่ริโอ 2016 และโตเกียว 2020 หากเขาสามารถคว้าเหรียญทองได้อีกครั้งในปารีส 2024 เขาจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักวิ่งมาราธอนคนแรกที่ได้เหรียญทองในโอลิมปิก 3 สมัยติดต่อกัน