วันที่ 19 มิถุนายน 2023 รอบชิงชนะเลิศของยูฟ่าเนชั่นส์ลีก ฤดูกาล 2022-23 มีขึ้นระหว่างทีมของโครเอเชียและสเปน ในการดวลจุดโทษอย่างดุเดือด สเปนได้รับชัยชนะด้วยสกอร์ 5-4 ทำให้สเปนคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก สมัยแรก
นี่เป็นการปรากฏตัวครั้งที่สองติดต่อกันของสเปนในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าเนชั่นส์ลีก ในปี 2021 พวกเขาพบกับความพ่ายแพ้ต่อฝรั่งเศส แต่ในปีนี้ พวกเขาเอาชนะโครเอเชียเพื่อคว้าแชมป์ไปได้
จากชัยชนะครั้งนี้ สเปนได้เพิ่มถ้วยรางวัลระดับนานาชาติรายการที่ 5 ลงในคอลเลกชั่น ซึ่งรวมถึง FIFA World Cup หนึ่งรายการ, UEFA European Championships 3 รายการ และปัจจุบันคือรายการ UEFA Nations League อีกหนึ่งรายการ
ยูฟ่าเนชั่นส์ลีก (The UEFA Nations League) เปิดตัวในปี 2018 โดยเป็นการแข่งขันที่จัดโดยยูฟ่าเพื่อแทนที่แมตช์กระชับมิตรระหว่างทีมชาติยุโรป จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี เพื่อสร้างความมั่นใจในการแข่งขันระดับทีมชาติ
หลังจากที่สเปนประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในการคว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรเปี้ยนแชมเปี้ยนชิพ 2008, ฟุตบอลโลก 2010 และยูฟ่ายูโรเปี้ยนแชมเปี้ยนชิพ 2012 ทีมก็ประสบปัญหาตกต่ำและพยายามดิ้นรนเพื่อกลับมาครองตำแหน่งอีกครั้ง การคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จะช่วยให้สเปนยุติปัญหาแชมป์เปี้ยนชิพ ซึ่งยืดเยื้อมากว่าทศวรรษ
สำหรับโครเอเชีย ผลงานที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์สำคัญคือฟุตบอลโลกปี 2018 ที่พวกเขาจบด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ
ในนัดแรกของยูฟ่าเนชั่นส์ลีก (ฤดูกาล 2018-19) ต่อจากฟุตบอลโลก โครเอเชียพบว่าตัวเองอยู่ในกลุ่ม D ร่วมกับอังกฤษและสเปน โดยจบที่อันดับท้ายๆ ของกลุ่ม
ในนัดที่สอง (ฤดูกาล 2020-21) ของยูฟ่าเนชั่นส์ลีก โครเอเชียถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม C ร่วมกับฝรั่งเศส โปรตุเกส และสวีเดน โดยจบอันดับสามของกลุ่มในที่สุด
ในการแข่งขันยูฟ่าเนชั่นส์ลีกครั้งที่สาม โครเอเชียได้ตำแหน่งในรอบน็อคเอาท์เป็นครั้งแรก โดยเป็นจ่าฝูงกลุ่ม A นำหน้าเดนมาร์กและฝรั่งเศส ในรอบรองชนะเลิศ โครเอเชีย เอาชนะ เนเธอร์แลนด์ 4-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
การปรากฏตัวครั้งแรกของสเปนในยูฟ่าเนชั่นส์ลีกไม่ได้ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เลย อย่างไรก็ตามพวกเขาก้าวเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ในรุ่นที่สอง แซงหน้าเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ โดยเอาชนะอิตาลี 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ แต่แพ้ฝรั่งเศส 1-2 ในรอบสุดท้าย ทำให้ได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศ
ตอนนี้ ด้วยผลงานติดต่อกันในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ผลงานของสเปนในทัวร์นาเมนต์ได้รับการคาดหวังอย่างสูง ตลอดการแข่งขัน ทั้งสองทีมมีโอกาสทั้งเกมรุกและเกมรับ แต่สร้างโอกาสการทำประตูได้ไม่ชัดเจน เมื่อหมดเวลา 90 นาที แต่ยังเสมอกันที่ 0-0 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ และในนาทีที่ 99 Mayoral วิ่งเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษโดยมี Nacho เข้าสกัดจากข้างหลัง จนไม่สามารถทำประตูได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ การแข่งขันดำเนินต่อไปด้วยการดวลจุดโทษ
สุดท้าย Koke สามารถนำชัยชนะมาให้สเปนด้วยจุดโทษได้สำเร็จ